
สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก Next Move รุกธุรกิจข้าวรักษ์โลกคว้าโอกาสเชื่อมประตูการค้า “กานา-แอฟริกา”
ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2565 กงศุลกานาประจำประเทศไทย เข้าพบ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เพื่อหารือความร่วมมือในการทำโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model โดยประเทศกานามีภูมิประเทศและสภาพอากาศที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย ปัจจุบันมีการเพาะปลูกข้าวอยู่บ้างแต่เป็นพันธุ์พื้นเมืองผลผลิตต่ำและยังไม่มีคุณภาพ

ที่ผ่านมาทางประเทศกานาเห็น โครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model ของประเทศไทย ตามแนวทางการปฏิบัติการทำนาสู่ความยั่งยืนของท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เห็นผลเชิงประจักษ์ในการลดต้นทุนการผลิค เพิ่มคุณภาพข้าวและจำนวนเกษตรกร ไม่ต้องสัมผัสกับสารเคมีปุ๋ยเคมี

โดยหันมาใช้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตร ทำให้เป็นการทำเกษตรแบบปลอดภัยที่ทำให้ได้ผลผลิตปลอดสารพิษ ดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทางประเทศกานาจึงมีความสนใจในการนำ “โครงการข้าวรักษ์โกล BCG Model” ไปประยุกต์ใช้ในประเทศกานา

ล่าสุด ดร.ภณ ทัพพินทร์กร นายกสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก ปัจจุบันทางประเทศกานา ทำการจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก (ประเทศกานา) เป็นที่เรียบร้อยเพื่อที่จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก ต่อไปในประเทศกานาและขยายไปต่อในทวีปแอฟริกาต่อไป นับเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ประตูสู่การค้าขาย

“หากประเทศไทยไม่เข้ามาในวันนี้ ประเทศเวียดนาม และประเทศอินเดีย เตรียมพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือด้านการเพาะปลูกข้าวให้กับประเทศกานาเช่นกัน ดังนั้นหากประเทศไทยไม่เข้ามาไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเราจะเสียโอกาสอีกมากมายที่เป็นความร่วมมือทงด้านอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นมาภายหลังต่อไป และเป็นที่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศกานาเลือกประเทศไทย”
ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศสภาพแวดล้อมประเทศกานาเหมือนเมืองไทยมีดินดีน้ำดีแต่ทำการเกษตรไม่ค่อยเป็นเท่าไรนักขาดเมล็ดพันธุ์ ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม พืชผลที่ปลูกมี กล้วย โก้โก้ และเริ่มจะปลูกข้าวเป็นพันธุ์พื้นเมืองแอฟริกา และหอมมะลิ 85 ซึ่งไม่ทรายว่าสายพันธุ์มาจากไหน
“เนื่องจากเพิ่งเริ่มทำนา ไม่เข้าใจวิธีการทำนา จึงทำแบบไม่รู้เท่าไรนักผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำและคุณภาพไม่ดีเท่าไรนัก โดยที่ผ่านมาประเทศกานานำเข้าข้าวจากต่างประเทศเพื่อใช้บริโภคภายในประเทศ รวมถึงพืชผลทางการเกษตร อีกหลายอย่างมากที่นำเข้าเพื่อบริโภคภายในประเทศ”
ดร.ภณ กล่าวว่า รัฐบาลประเทศกานามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการที่ไทยจะเข้ามาช่วยเหลือทางด้านการเพาะปลูกข้าวให้กับประเทศกานา รวมถึงความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปภายหลังซึ่งทางกานาพร้อมที่จะให้การสนับสนุนประรเทศไทยในทุกๆด้านที่สามารถดำเนินการได้ อาทิ แหล่งน้ำมันปัจจุบันมีการพบและขุดเจาะน้ำมันในทะเลกานาและยังมีอีกหลายหลุมที่จะไม่ด้เริ่มดำเนินการก็จะเป็นโอกาสดีของ ปตท.สผ ที่จะเข้ามาสัมปทานหรือดำนเินการ ทางด้านพลังงาน
ปัจจุบันผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำจากเขื่อนจากก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน กำลังการผลิตยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานและการขยายทางธุรกิจหรือรองรับการเติบดตของประเทศ ที่เห็นยังขาด Solar Farm ซึ่งทางรัฐบาลกานาให้ความสนใจในเรื่องนี้ และยังมีอีกหลานด้านที่เป็นโอกาสทางการค้าของประเทศไทย อีกทั้งประเทศกานาจะเป็นประตูทางการค้าสู่ประเทศต่างๆในแอฟริกาต่อไปให้กับประเทศไทย